พลิกสถานการณ์? Nissan Almera 2020 จัดมาให้ขนาดนี้ จะสร้างจุดเปลี่ยนให้ Nissan ได้หรือไม่?

รีวิว พร้อมราคา All-New Nissan Almera 2020 นิสสัน อัลเมร่า หน้าตาแบบนี้ จัดเทคโนโลยีมาให้ขนาดนี้ จะสร้างจุดเปลี่ยนให้ Nissan ประเทศไทย ได้หรือไม่?

Nissan เปิดตัว All-New Almera ใหม่ ที่สร้างความฮือฮาในวงการรถยนต์อีโคคาร์ ด้วยรูปลักษณ์ที่ทันสมัย โฉบเฉี่ยว มาพร้อมเทคโนโลยีแบบจัดเต็ม ในราคาที่สมเหตุสมผล ตามที่เราได้นำเสนอข้อมูลเบื้องต้นไปแล้วนั่น วันนี้เราขอพามาเจาะลึก รายละเอียดทางด้านเทคนิค และเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีมาให้ใน Almera โฉมใหม่ว่าจะคุ้มค่าเงินที่จ่ายไป หรือไม่

นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ รถยนต์แบบซีดานอัจฉริยะ สำหรับการใช้งานในเมือง ที่มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงมากมาย ภายใต้การเปิดตัวในธีม ‘Challenge All Beliefs’ หรือ ‘เปลี่ยนทุกสิ่งที่เคยเชื่อ’ เพราะนิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ได้เปลี่ยนไปจากเดิม ที่คุณเคยคิดว่า รู้จักรถคันนี้แล้ว นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ได้รับการพัฒนาและออกแบบมาให้สมบูรณ์แบบในทุกพื้นที่ รวมถึงความสวยงาม ความสะดวกสบาย สมรรถนะ และความปลอดภัยระดับสูงสุด ประเทศไทยเป็นประเทศแรก ในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ที่เปิดตัว นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร

นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ได้รับการออกแบบให้มิติภายนอกที่ปราดเปรียวขึ้น กว้างและยาวขึ้น ภายใต้ปรัชญาในการสร้างสรรค์รถยนต์ของนิสสัน แบบรูปทรงเรขาคณิต ที่สื่อถึงอารมณ์ หรือ Emotional Geometry โดยมีองค์ประกอบที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ อาทิ กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้าและไฟท้ายทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลัง ที่ถูกยกขึ้น (kick-up C-pillars) และหลังคาแบบลอยตัว (floating roof) ส่งต่ออัตลักษณ์ของแบรนด์ ให้มีความต่อเนื่อง ในรถยนต์นิสสันทุกรุ่น โดยตัวรถมีความยาว 4495 มม กว้าง 1740 มม สูง 1460 มม ระยะฐานล้อ อยู่ที่ 2620 มม

ไฟหน้าใหม่ของนิสสัน อัลเมร่า เป็นไฟหน้าแบบ LED พร้อม LED Signature Light ทรงบูมเมอแรง ไฟเลี้ยวด้านข้าง และไฟท้ายแบบ Signature Light พร้อมไฟเบรกแบบ LED ทรงบูมเมอแรง

ในส่วนของเสาด้านหลังตัวรถ ถูกออกแบบให้กลมกลืน เสมือนหลังคาลอยตัวอยู่ ช่วยเติมเต็มรูปลักษณ์ให้ สง่างามยิ่งขึ้น พร้อมด้วยซุ้มล้อที่ดูชัดเจน เพิ่มภาพสะท้อนจากแสง ในแต่ละมุมของตัวรถ เสริมบุคลิก และความโดดเด่นให้กับตัวรถ ด้วยเส้นสายที่ให้ความรู้สึกทรงพลัง ลากผ่านจากประตู ไปสู่ด้านท้าย

ขณะที่ภายในของนิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อรองรับหน้าจอแสดงผลใหม่ของ ระบบอินโฟเทนเมนต์ พวงมาลัย และเบาะนั่ง ห้องโดยสารภายในมีสไตล์ ใช้วัสดุคุณภาพสูง และเน้นความประณีตในการประกอบ ช่วยเสริมความโดดเด่น และความหรูหราให้กับรถคันนี้ ปรัชญาการออกแบบลายเส้น ของปีกเครื่องร่อน ของนิสสัน (Nissan Gliding Wing) ถูกนำไปใช้ตกแต่ง ในส่วนแผงหน้ารถ ทำให้ผู้ขับขี่ สามารถสัมผัสได้ ถึงแนวเส้นโค้งที่โฉบเฉี่ยวบริเวณคอนโซลกลาง ซึ่งมอบความประทับใจ และความสวยงามจากแนวปีก ที่กว้างขึ้น

นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.0 ลิตรใหม่ ภายใต้รหัส HRA0 3 สูบ แถวเรียง แบบ DOHC (Double Overhead Camshaft) ขนาดปริมาตรความจุ 999 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้าพีเอส (Ps) ที่ 5000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดถึง 152 นิวตันเมตร (Nm) ตั้งแต่รอบเครื่อง ที่ 2,400 ถึง 4,000 รอบต่อนาที

ระบบเกียร์เป็นแบบ XTRONIC CVT พร้อม D-Step Logic ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล แต่ให้อัตราเร่งต่อเนื่อง และทันใจ ตอบสนองอัตราเร่งแซงที่ดีขึ้น ช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพ และประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีกว่าเดิม และด้วยเทคโนโลยี D-Step Logic สร้างการขับขี่ให้น่าตื่นเต้น และส่งกำลังที่มีความละเอียดยิ่งขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์บนท้องถนนให้ผู้ขับขี่ เมื่อเปรียบเทียบกับระบบเกียร์ทั่วไป ตอบสนองคันเร่งได้เป็นอย่างดี ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วขึ้น แต่ยังมีการประหยัดเชื้อเพลิง ที่โดดเด่นอีกด้วย

สำหรับระบบช่วงล่าง ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ขณะที่ด้านหลัง เป็นแบบทอร์ชันบีม พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วยให้การขับขี่นุ่มนวล ยึดเกาะถนน และรองรับน้ำหนักบรรทุกได้ดี

นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ มาพร้อมกับประสิทธิภาพอัตราสิ้นเปลืองน้้ามันเชื้อเพลิง ที่ดีที่สุด ในรถยนต์ระดับเดียวกันถึง 23.3 กม. ต่อลิตร นอกจากนี้ ยังมีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ เมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น สามารถเปิดปิด ระบบการทำงานได้

นอกเหนือจากประสิทธิภาพของเครื่องยนต์แล้ว เครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตรใหม่นี้ ยังเต็มไปด้วยนวัตกรรมทางเทคนิคมากมาย เช่น ลูกสูบแบบ Delta Cylinder Head, หัวฉีดแบบ Central Injector และ Turbocharger ที่ควบคุมไอเสีย ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงเทคโนโลยีเคลือบบนกระบอกสูบ แบบ Mirror Bore Coating เช่นเดียวกับที่ใช้ในรถซูเปอร์สปอร์ต อย่าง Nissan GT-R ซึ่งเพิ่มความทนทาน ช่วยลดการสึกหรอ และน้ำหนักของกระบอกสูบ ในขณะที่ช่วยปรับปรุง ในเรื่องการระบายความร้อน และการเผาไหม้

ในขณะที่ประสิทธิภาพและนวัตกรรม เป็นจุดขายที่มีความโดดเด่นอย่างชัดเจน การจัดการเรื่องเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง (Noise, Vibration, and Harshness - NVH) ได้รับการปรับปรุง ส่งผลต่อเครื่องยนต์ และตัดเสียงรบกวนจากบนท้องถนน ทำให้ห้องโดยสารมีความเงียบยิ่งขึ้น